10/31/2011

งานวันที่สองขุดหลุมและผูกเหล็ก


จากเมื่อวานจะเห็นบริเวณนี้มีเพียงไม้เล็ก ๆ ปักเป็นแนวไว้เท่านั้น  วันนี้มีหลุมเกิดขึ้นแล้วจำนวน 7 หลุม ขนาดกว้าง 1.00 x 1.00 เมตร  จากทั้งหมด 18 หลุม แยกเป็นหลุมเสารั้วจริง ๆ 9 หลุม และหลุมทำสเตย์ยึดอีก 9 หลุม มี 4 - 5 หลุม ที่ก้นหลุมขุดไปเจอน้ำขังอยู่เพราะบริเวณพื้นที่ติดกันเป็นสระน้ำซึ่งยังมีน้ำขังอยู่เยอะ

วัสดุหินและทรายหยาบสั่งมาอย่างละ  4 คิว ราคาหินตกคิวละ 520 บาท ส่วนทรายหยาบคิวละ 380 บาท สั่งมาทำเฉพาะเทคอนกรีตก้นหลุม ทั้ง 18 หลุม และเสาตอม่อก่อน  วันนี้คนงานมาบ่นว่าวัสดุเหล่านี้รถเข้ามาส่งเทไว้ไกลเกินไปทำให้เสียเวลาขนเพิ่มขึ้นต้องช่วยค่าแรงด้วยน่ะ ที่จริงก็ไม่ได้ไกลเกินจริง  เพียงห่างจากที่ทำรั้วไม่เกิน 30 เมตรเอง ..

ที่คลุมผ้ายางไว้เป็นปูนซิเมนต์สองชนิด คือ ปูนก่อหรือปูนเขียวธรรมดา และปูนชนิดปอร์ตแลนด์หรือปูนที่ใช้งานเทโครงสร้าง  ซึ่งราคาทั้งสองชนิดไม่เท่ากันคือปูนโครงสร้างจะมีราคาแพงกว่าแบบแรก ส่วนวัสดุที่อยู่บนรถเข็นปูนคือ ปลอกเหล็กใช้สำหรับนำมาทำเสาและคาน

10/30/2011

ได้เวลานับหนึ่งที่นี่


บริเวณนี้จะทำรั้วคอนกรีตความยาว 21.60 เมตร แต่ด้วยพื้้นที่ตรงนี้อยู่ติดกับบ่อน้ำที่มีความลาดเอียงมาก การสร้างรั้วจึงต้องยุ่งยากพอสมควร เพราะพื้นที่ต่ำมาก นั่นหมายความว่าเราต้องทำรั้วที่สูงมากเกือบ 2 เท่าของแนวรั้วเดิม ความยุ่งยากที่ตามมาอันดับแรกคือ หาช่างมาทำยากหลายรายปฎิเสธไม่มาทำหลังจากที่ตกลงราคากันแล้ว  อย่างที่สองคือราคาค่าแรงและค่าวัสดุเพิ่มขึ้น ความยุ่งยากน่าจะอยู่ตรงต้องทำคานคอนกรีต 2 ชั้น นอกจากนี้ยังต้องมีสเตย์ยึดจากคานตัวที่ 2 เพื่อเป็นตัวยึดกำแพงไว้หลังจากถมดิน ซึ่งตรงส่วนนี้ต้องแข็งแรงมาก ๆ  ...คราวหน้าได้เวลา..ลุยแล้ว

10/25/2011

ปลูกต้นไทรเกาหลีริมรั้ว


หลังจากขุดรากถอนโคนต้นน้อยหน่าริมรั้วออกไปหมดแล้ว  มองดูรั้วรู้สึกว่าออกโล่ง ๆ เมื่อยามบ่ายแสงแดดส่องเข้ามาเกือบถึงถนนกลางหน้าบ้าน  ดังนั้นจึงต้องมองหาต้นไม้ปลูกเป็นรั้วบังแสงแดดได้ จึงเลือกไทรเกาหลี  ตามภาพต้นไทรเกาหลีมีความสูงประมาณ ๑๘๐ เมตร ราคาจึงอยู่ที่ ๑๘๐ บาทต่อต้นด้วย เพราะคนขายคิดตามความสูงของต้นไม้เป็นหลัก  จริงแล้วร้านขายต้นไม้นี้ไปรับต้นไม้มาจากคลอง ๑๕ นั่นเอง


กลับจากซื้อต้นไม้มาถึงบ้านช่วงใกล้ ๆ เที่ยงแล้ว ได้ลงมือทันทีโดยการย้ายต้นไม้ที่ปลูกบริเวณนี้ออกให้หมด ไม่รวมต้นน้อยหน่าที่ขุดออกไปก่อนหน้านี้แล้ว  ต้นไม้ที่ขุดออกทีหลังก่อนปลูกไทรเกาหลีได้แก่ ต้นกล้วย ต้นมะนาว ต้นปลงรวมทั้งไม้ดอกอื่น ๆ  และสุดท้ายคือทำการย้ายท่อประปาออก  หลังจากนั้นลงมือวัดระยะ  กำหนดตำแหน่งหลุมให้ได้ระยะที่กำหนด คือห่างจากรั้ว ๑ เมตร ปลูกห่างระหว่างต้น ๑ เมตรเช่นกัน  ก็จะได้แนวต้นไทรเกาหลีดังภาพ รวมต้นไม้ที่ปลูกนี้ ๒๐ ต้นพอดี ใช้เวลาปลูกทั้งสิ้น ๒ บ่าย วันแรกปลูกได้ ๑๕ ต้น  ก็เหนื่อยสุด ๆ ล่ะ  บ่ายวันที่ ๒ หลังกลับจากพาย่าไปหาหมอตามาถึงบ้านบ่าย ๒ โมงครึ่ง ลงมือปลูกที่เหลืออีก ๕ ต้น วันนี้สบาย ๆ ไม่เหนื่อยเหมือนวันแรก...ชิว ชิว

อีกมุมหนึ่งของด้านหลังต้นไม้กับรั้ว  จะเห็นช่องว่างประมาณ ๑ เมตรที่เว้นไว้เข้าไปทำความสะอาด และใช้เดินเข้าไปตัดแต่งทีหลังได้สะดวก  คราวนี้มาคอยดูกันว่าจะใช้เวลากี่วันกี่เดือนต้นไม้ที่ปลูกไว้นี้จะเติบโตได้ตามความต้องการ  โดยคิดไว้ว่าจะตัดแต่งต้นไม้นี้ให้เป็นรูปทรงกระบอก และจะเลี้ยงไว้ให้มีความสูงเกินรั้วขึ้นไปอีกซัก ๕๐ cm.

10/24/2011

รื้อ ๆ รั้ว ๆ


ห่างไปหลายวันไม่มีเวลาอัพบล๊อคซะทีเพราะใช้เวลาไปเตรียมสถานที่ที่จะทำรั้ว ตรงนี้ต้องขุดต้นมะกรูด, ต้นกล้วยออก   เตรียมหาไม้แบบ ไม้หน้าสาม ไว้สำหรับหล่อเสาและคาน  ต้องคัดเลือกขนาดหน้าไม้ที่ต้องการ เมื่อได้มาแล้วทำการถอนตะปูออกใช้เวลาเป็นสัปดาห์เลยงานนี้

ภาพบนจะเห็นแนวรั้วจากของเดิมได้ปลูกต้นน้อยหน่าไว้ตลอดแนวรั้วไว้นานหลายปี  ให้ผลผลิตทุกปีเป็นทั้งอาหารคนและนกต่าง ๆ รวมทั้งกระรอกขาวด้วยมันจะเดินมาตามรั้ววันละหลายตัว แต่ตอนนี้ได้ขุดต้นน้อยหน่าออกหมดแล้ว  เพราะเหตุว่าปลูกไว้นานอายุมากแล้ว ที่สำคัญคือต้นสูงมาก เก็บลูกไม่ถึงและเป็นที่อยู่อาศัยของมดแดงซึ่งมีเยอะมาก ๆ

ภาพนี้เป็นส่วนหนึ่งของต้นน้อยหน่าที่ฟันลงมากองเก็บไว้เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี  ไว้มีเวลาจะใช้เลื่อยตัดเป็นท่อน ๆ เพื่อง่ายต่อการนำมาใช้ คงต้องหาเวลาเลื่อยก่อนที่ไม้จะแห้งซึ่งทำให้เลื่อยยากขึ้น  หลังจากที่ทำเป็นท่อน ๆ แล้วก็ให้มันตากแดดตากลมตามธรรมชาติไม่กี่วันก็นำมาใช้ได้    

10/14/2011

น้ำต้องไม่ท่วม

ระดับน้ำหน้าบ้านหลังสูบออกอย่างหนัก

นี่เป็นภาพล่าสุดจะเห็นระดับน้ำหน้าบ้านยังคงระดับเดิม เพราะสมาชิกภายในหมู่บ้านร่วมมือกันอย่างแข็งขันกันทุกคน  หลายคนโรงงานถูกน้ำท่วมเสียหายหนักคงต้องหยุดงานกันนาน รวมทั้งเพื่อนบ้านอย่างคุณใหม่ก็ไม่สามารถออกไปทำงานได้  เพราะถนนสายหลักหน้าหมู่บ้านน้ำท่วมรถเล็กเข้าออกไม่ได้แล้ว และอีกอย่างหลายคนในหมู่บ้านนำรถส่วนตัวไปจอดเก็บไว้ที่ฟิวเจอร์ปารค์รังสิตเพื่อความปลอดภัย

ส่วนระดับน้ำหน้าบ้านนั้นยังคงไม่เข้าบ้านเพราะท้ายซอยได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกตลอด ๒๔ ชั่วโมง ส่วนค่าน้ำมันและอื่น ๆ ที่ใช้ป้องกันน้ำท่วมนั้น ชาวบ้านในหมู่บ้านช่วยกันสละเงินตามกำลังเพื่อรักษาบ้านให้รอดจากการถูกน้ำท่วมครั้งนี้ให้ได้..สู้ ๆๆ ครับทุกคน

10/06/2011






หินในภาพนี้เป็นหินทรายที่มีอยู่ในสวนต้องตา  เหตุผลที่มีหินก้อนนี้มาอยู่ตรงนี้ได้เพราะว่า  กาลครั้งหนึ่งเมื่อหลายสิบที่ผ่านมาขณะนั้นกำลังมีการก่อสร้างโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ บ้าน  ได้เข้ามาขอดินเพื่อนำไปถมที่โรงงานแห่งนี้  คุณปู่สมัยนั้นก็เลยให้ขุดดินข้าง ๆ สวนต้องตา  หลังจากขุดลึกพอสมควรก็ไม่สามารถขุดต่อได้  เพราะใต้ดินเหล่านี้เต็มไปด้วยหินทราย ดังนั้นจึงได้ขนเอาหินทรายก้อนนี้ที่มีขนาดเล็กที่พอรถจะดันขึ้นมาได้  นำมาวางไว้ดังที่เห็นนั่นเอง

หินทราย (Sandstone)  มีด้วยกันหลายสี  เช่น สีเหลือง  เทา  ขาว  และน้ำตาล  ส่วนก้อนที่เห็นนี้เป็นหินทรายสีน้ำตาลออกดำ ๆ เพราะตากแดดตากฝนมาหลายปี  แต่หากกระเทาะดูเนื้อทรายข้างในจะออกเป็นสีม่วงออกชมพูอ่อน ๆ  มีเนื้อหยาบ โครงสร้างของหินทรายนี้อาจมี พวกซิลิกา  แคลเซียมคาร์บอเนต หรือเหล็กออกไซด์  ซึ่งเป็นตัวทำให้หินทรายมีสีแดง น้ำตาล เหลือง  จับตัวรวมเข้ากับหินให้เกาะตัวกันแน่น  มีความแข็งแต่เมื่อตัดเป็นแผ่นหินบาง ๆ จะค่อนข้างเปราะและหักได้ง่าย

10/04/2011

โครงการรื้อรั้วเตรียมงาน


ภาพนี้ถ่ายด้านข้างจะเห็นถนนลึกเข้าไปตามซอยหมู่บ้าน ในภาพเป็นการรื้อถอนรั้วตรงกลางออกเพื่อเตรียมเปิดทางให้รถเข้ามาส่งวัสดุงานก่อสร้าง เช่น เหล็กเส้น ลวดผูกเหล็ก ปูนซิเมนต์ อิฐ หินและทราย แต่รถคงยังเข้าไปไม่ได้ช่วงนี้  เพราะว่าพื้นดินยังอ่อนอยู่ หากให้รถส่งของเข้าไปรับรองติดแน่นอน


รูปที่สองนี้ถ่ายจากในสวนออกไปข้างนอก จะเห็นถนนอยู่ข้างหน้ารั้ว และทางที่เปิดไว้มีขนาดกว้างประมาณ ๓.๕๐ เมตร กว้างพอให้รถเข้าออกได้เท่านั้น

ภาพถ่ายจากด้านนอกเข้าไปข้างในสวน มองไกล ๆ คล้ายกับว่าสวนรกไปด้วยต้นไม้  แต่จริง ๆ แล้วจะมีเพียงต้นมะม่วงสองต้นที่เห็นเท่านั้น  คงไม่นานต้องถูกตัดแต่งกิ่งออกให้ดูโล่งกว่านี้อีก   ส่วนหญ้าที่อยู่ด้านหน้ารั้วที่เห็นสะอาดตานั้นเพราะอารงค์เพิ่งจะตัดหญ้าให้  โดยใช้เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายส่วนใบมีดที่ใส่กับเครื่องนั้นเป็นไนล่อนเส้นเดียว..ดีจริง ๆ

10/03/2011

หมัดสุนัข

หมัดในที่นี้ไม่ใช่หมายถึง หมัดหนัก หมัดเบาของนักมวยแต่เป็นหมัดที่เกาะกินดูดเลือดที่ตัวสุนัขและแมว ซึ่งเป็นเหตุนำโรคต่าง ๆ มาสู่สัตว์เลี้ยงในบ้านได้
หมัดสามารถวางไข่ได้ถึงวันละ 50 ฟอง  จากนั้นไข่ของหมัดจะใช้เวลาฟักตัว ๒ - ๓ สัปดาห์ จึงออกเป็นตัวหมัด  ในหนึ่งปีหมัดสามารถขยายพันธุ์หลังจากที่ดูดกินเลือดสุนัขหรือแมวเพียงหนึ่งครั้งได้กว่านับแสนตัว  ที่สำคัญคือ 95 % ของประชากรหมัดเหล่านี้ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า  ซึ่งมันจะอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมกับตัวสัตว์เลี้ยงรวมทั้งตัวเราด้วย

วงจรชีวิตของหมัด

  • ไข่หมัด
  • ตัวอ่อน (Larva)
  • ดักแด้ (Pupa)
  • ตัวเต็มวัย (Adult)

หมัดนำโรคมาสู่สัตว์เลี้ยง ได้แก่
1. พยาธิตืดแตงกวา หรือตืดหมัด
หมัดเป็นพาหะของพยาธิตัวตืด สุนัขของเราอาจติดได้โดยกินตัวหมัดที่มีไข่ของพยาธิขนิดนี้เข้าไปโดยบังเอิญ  หลังจากนั้นไข่ของพยาธิจะเจริญเติบโต มันจะแย่งอาหารและทำให้ร่างกายอ่อนแอ น้ำหนักตัวลด และสุนัขจะแสดงอาการไถก้นเนื่องจากการคันบริเวณทวารหนัก

2. โรคผิวหนังอักเสบเนื่องจากแพ้น้ำลายหมัด
หมัดเพียงหนึ่งตัว เป็นเหตุให้สุนัขเิกิดอาการแพ้ได้  สัตว์ที่แพ้น้ำลายของหมัดจะแสดงอาการคัน มีผื่นแดง และอักเสบที่ผิวหนังอาจรุนแรงมากขึ้น  ในกรณีที่สัตว์เกาและกัดย้ำบริเวณที่ผิวหนังมีอาการแพ้


10/01/2011

มะขามหวานหลังบ้าน



เดือนนี้ช่วงกันยายน ยังมีฝนตกชุกตลอดเกือบทั้งเดือน  แต่สองวันที่ผ่านมานี้ฝนเว้นช่วงสองวัน มีแสงแดดจ้าตลอดวันจึงมีเวลาเดินไปดูต้นไม้ โดยเฉพาะต้นมะขามที่ปลูกไว้หลังบ้าน  ได้สังเกตเห็นว่ามีฝักอ่อนเริ่มให้เห็นบ้างแล้วแต่ยังไม่มากเ่ท่าไร  ต้นมะขามต้นนี้เป็นพันสีทองโดยซื้อมาจากร้านขายต้นไม้ตรงทางแยกไปมหาวิทยาลัยสุรนารี  ต้นนี้เคยให้ฝักมาครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งให้ผลดกมากและมีรสหวานทานอร่อยพอสมควร ฝักไม่ใหญ่เท่าไร  แต่เมื่อเจอฝนตกติดต่อกันเมื่อปีที่แล้วทำให้ต้นมะขามต้นนี้ล้มลง  เพราะรับน้ำหนักไม่ไหวอีกทั้งต้นมะขามไม่มีรากแก้วยึดดินไว้

หลังจากนั้นได้ทำการตัดกิ่งทิ้งออกทั้งหมด  แล้วยกต้นมะขามให้ตั้งตรงเหมือนเดิม  ใช้ไม้มาค้ำกิ่งไว้เพื่อให้ต้นมะขามยืนต้นได้  จนมาถึงปีนี้ได้ติดดอกออกฝักอ่อนอย่างที่เห็น ช่วงนี้ก็รอให้มันออกฝักเต็มที่ของมันต่อไป