12/02/2014

ระหว่างเดินทางบน Shinkansen

หลังเลือกที่ได้เป็นที่ถูกใจแล้ว เราก็จัดการเรื่องปากท้องของเราให้อิ่มก่อน  ดูซิอาหารที่ซื้อมาเป็นไงบ้าง

กล่องข้าวสวยดี


ข้างในจะน่ากินมั๊ย   อ่ะถูกใจเลยเมนูนี้สารอาหารได้หลายหมู่อยู่



ว่าแล้วก็จัดการกับอาหารมื้อเช้าที่ซื้อตุนใส่ถุงหิ้วมาตั้งนาน  ก็เป็นอาหารกล่องญี่ปุ่นแบบง่ายๆ ดูสะอาดและอร่อยดี บนที่ขบวนที่นั่งยังมีเก้าอี้ว่างอีกมาก ก็เลยพากันเลือกนั่งตามใจชอบ ดูๆไปก็เหมือนนั่งอยู่บนเครื่องบินเลยนิ




ส่วนตัวเราก็หามุมส่วนตัวเพื่อดูวิวรายทางซึ่งสวยงามมากๆ เป้าหมายเรายังต้องไปต่อรถไฟอีกขบวนหนึ่ง ซึ่งเป็นรถไฟของท้องถิ่น


แอบถ่ายข้างหลัง


11/28/2014

จะไป Koriyama

งั้นก็ต้องนั่งรถไฟ Shingansen ละซิ แน่นอนเพราะไม่เคยนั่ง เลยหาเรื่องนั่งจะได้รู้เสียที บ้านเมืองเรามันเสือกไม่มีซักทีนี่นา

นี่ไงราคาตั๋ว 1,940 เยน



มีบัตรมีตั๋วก็ไปที่รอที่ชานชาลากันเลย คือต้องเดินลงบันไดเลื่อนลงไปลึกมากพอควร เมื่อยืนที่บันไดเลือนแล้วต้องรีบชิดซ้ายทันที ปล่อยที่ว่างไว้สำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็วสามารถเดินแซงขึ้นไปได้ ดูแล้วเป็นระเบียบดี ไม่ยืนเกะกะ หรือยืนคุยกัน บ้างครั้งยืนเรียงหน้ากระดานเหมือนบ้านเรา



เดินผ่านของกินไม่ได้  ต้องแวะหาเสบียงมื้อเช้าไว้บนรถเพิ่มเติมอีก เห็นแล้วน่ากินจัง


ตารางเวลาเมื่อ 19.14 น.  นาฬิกาเดินบอกเวลาไปเรื่อยๆ  แล้วก็รอ



ตารางเวลาเมื่อถึง 19.22 น. อ้าว...ไหงเป็นแบบนี้ล่ะ  9.22 NASUNO 255 Delayed over 1h.30min.


เหอๆ.. เค้าก็รอ...รอก็รอเหมือนกัน





ในที่สุดก็ถึงเวลามันมาแล้ว นี่ไงถ่ายรูปไว้ก่อน นั่นมันเหมือนหัวปลาไหลหรือหัวเป็ดกันเนี่ย หัวมันทำไมยาวจังว่ะ แต่สวยดี รุ่นนี้ไม่น่าจะขนผักได้น่ะ


เราจะเริ่มจากที่เราอยู่ตอนนี้คือ Nakano และเราต้องการนั่งเจ้า Shingansen ไปลงที่ St. Koriyama ตั๋วก็ซื้อไว้แล้ว ขบวนของเราเป็นขบวนที่ 255 แต่ ๆๆๆ ขบวนนี้จะลีเลย์ออกไปอีก 1 ชั่วโมงครึ่งแน่ะ.....เซ็งๆๆเลย  (มีหัวรถไฟจูบกันด้วย...)



หลังจากรอและรอ ในที่สุดก็ถึงเวลาได้ขึ้นรถไฟให้หายอยากเสียที พร้อมเสบียง ๑ ถุงติดตัว ขณะเดินไปยังตู้ขบวนเพื่อที่จะไปหาที่นั่ง สายตาเหลือบไปเห็นที่อ่างล้างมือ พอดีเลยขอไปล้างหน้าล้างตาหน่อย ว่าแต่ เอ.. ที่เปิดน้ำมันอยู่ตรงไหนหว่า หรือมันไม่ทำไว้ว่ะ ทำไมเราหาไม่เจอ ไม่เป็นไรขอไปนั่งสงบสติอารมณ์ให้สบายก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยมาสู้กับมันใหม่ มันจะแน่แค่ไหนว่ะ

ไปกันพร้อมหน้าสามคน ขณะนั่งรอยืนรอรถไฟ มีเรื่องขำจะเล่าอันที่จริงหากเป็นบ้านเมืองเขาก็คงไม่ขำหรอก แต่เผอิญว่าเราเป็นคนไทยไม่นิยมเข้าคิวแบบคนญี่ปุ่น

คือว่า..ขณะพวกเราสามคนยืนรอและยืนคุยกันอยู่หน้าชานชลาดั่งในภาพนั่นแหล่ะ สักพักก็มีคนญี่ปุ่นมายืนต่อแถวตรงที่เรายืนอยู่เป็นแถวยาวโค้งไปเลย ไอ้เราก็งงๆ ว่าทำไมคนมายืนต่อแถวเยอะจัง หันไปหันมา  อ้าว..นี่มันเข้าคิวเตรียมรอขึ้นรถไฟกันแล้วนี่  จากที่เรายืนกลุ่มเป็นสามมุมก็เลยต้องเข้ามาเรียงให้มันดูกลมกลืนกับชาวบ้านหน่อย

ดีจังเลย  คนที่นี่ไม่มีการแซงคิว  เห็นพวกเรายืนตรงนี้แบบไม่เป็นแถว แต่พวกเขาก็รู้ว่าพวกเรายืนอยู่ก่อน  พวกเขาจึงมายืนต่อพวกเราไง   สุดยอด

10/16/2014

แก้ตามช่าง..(ไม่ใช่ตามช่างมาแก้)

งานนี้เหนื่อยใจ จากที่จ้างช่างมาเดินระบบไฟฟ้าภายในบ้านและเป็นความสะเพร่าของตัวเราเองที่ไม่ตรวจงานให้ละเอียดเสียก่อน ด้วยความที่เป็นคนคุ้นเคยกันดีเลยไม่ดูอะไรมากเพียงเห็นว่าเสร็จเรียบร้อยก็จ่ายตังค์เป็นอันจบ ในที่สุดก็เริ่มมองเห็นจุดบกพร่องเช่น หลอดไฟอยู่ด้านหนึ่ง สวิทช์อยู่ด้านหนึ่งบ้าง สวิทช์เดียวต่อรวมหลอดบ้าง ช่างรู้ดีก่อนเจ้าของบ้านซะอีกไม่ถามเราเลย
แต่ภาพข้างล่างนี้เป็นภาพที่สายดิน(สีเขียว หมายเลข๑) มีกระแสไฟฟ้าตลอดเวลาแม้กระทั่งปิดเบรกเกอร์ลงหมดก็ตาม
ส่วนวงแดงหมายเลข ๒ เป็นฝีมือช่างแอร์ของ Home Pro มาติด ดูตามภาพจะเห็นสีของสายไฟใส่ลงไปโดยไม่ได้ดูชาวบ้านเลยว่าสีอะไรเค้าใส่อย่างไร จะว่าเป็นช่างโบราณดีมั้ย และที่สำคัญสร้างปัญหาให้กับระบบไฟฟ้าในบ้านทั้งหมดด้วย นั่นคือไฟรั่วไปลงที่กราวด์ ทำให้มิเตอร์หมุนทำงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง มารู้อีกทีอีตอนมาติดตั้งเครื่่องทำน้ำอุ่นด้วยตัวเองและถูกไฟเกือบดูดนั่นแหละ..

ตู้โหลดเซ็นเตอร์เมนเบรกเกอร์
เมื่อเดินสายไฟภายในบ้านเสร็จใหม่ๆ ได้ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาติดตั้งครั้งแรกเปิดทดสอบใช้งานได้ตามปกติ แต่ไม่ค่อยได้ใช้เลยถอดไปใช้กับบ้านอีกหลังหนึ่ง จากนั้นสั่งแอร์มาติดตั้ง ๒ ตัว แล้วก็ทิ้งบ้านไว้ไม่ได้เปิดใช้อยู่หลายเดือน มาวันนี้ซื้อเครื่องทำน้ำอุ่นมาใหม่เพื่อติดตั้งแทนเครื่องเก่าที่ถอดออกไป ระหว่างทำการติดตั้งเมื่อต่อสายไฟครบทั้ง ๓ เส้นแล้วมือไปถูกสายดินปรากฎว่าถูกไฟดูด จึงได้เอาไขควงเทสไฟดูมีไฟแน่นอน ตอนนั้นยังคิดว่าในเมื่อยังไม่ได้ต่อสายไฟเข้าเบรกเกอร์เลยและปิดไฟไว้หมดทำไมมันจึงมีไฟดูดเราได้ เดินออกไปดูมิเตอร์หน้าบ้านเห็นมิเตอร์หมุนอยู่อีก คราวนี้ชัดเลยว่าไฟรั่วแน่ๆเลย จึงจัดการเปิดตู้โหลดหาสาเหตุทันที

สาเหตุ เจอแล้วไง
ความมักง่ายของช่างแอร์ เมื่อเปิดตู้โหลดแล้วเวลาปิดใช้สกรูที่เป็นเกลี่ยวยาวเกินขนาดขันเพื่อปิดฝาตู้โหลด เลยทะลุทิ่มแทงสายเมนไฟที่มาจากมิเตอร์ ทำให้กระแสไฟวิ่งไปทั่วกล่องของตู้โหลดและวิ่งไปที่สายดินได้ มิน่าเล่ามันจึงมีไฟมาดูดเราขณะติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น นอกจากนี้เรายังต้องมาตามเก็บงานอีกหลายอย่างจากช่างมักง่ายที่มักง่าย

ดูช่างมักง่าย
ผลงานช่างแอร์ติดเบรกเกอร์ใช้วิธีมักง่าย คือใช้หัวแร้งไฟฟ้าเจาะแผ่นยึดแทนใช้สว่านเจาะ ผลคือไม่เรียบร้อยแผ่นมีตะเข็บแหลมคมและไม่เรียบ นอกจากนี้ยังสว่านเจาะรูเพื่อใช้ใส่ตะปูเกลียว แต่เมื่อใส่ตะปูเกลี่ยวแล้วปรากฎว่าหลวมขันไม่ได้หรือขันไม่แน่น

เมื่อมักง่ายยังงี้ แล้วช่างมันทำยังไงต่อ นี่เลย
หาอุปกรณ์ที่มีอยู่ในกล่องเครื่องมือมันนั่นแหล่ะมาทำเป็นน๊อตตัวเมียเสียเลย ช่างมันเก่งมั้ยล่ะ มักง่ายดีแทีเชียว

ในที่สุดเราก็จัดการแก้ไขเรียบร้อยสำเร็จด้วยดี กินเวลาไปครึ่งวันจากจ้างช่างมาทำแต่เราต้องมาแก้ไขตามช่างมัน คิดแล้วก็ช่างหัวมันเถอะกูก็ทำได้โว้ย..

10/09/2014

วันที่ ๓ ของการเดินทาง

วันนี้เป็นวันที่ ๓ แล้วที่พักอยู่ที่นี่ ตื่นขึ้นมาตอนเช้า มองออกไปข้างนอกที่พักต้นไม้สีเขียวขจีแซมใบสีเขียวอ่อนๆ พื้นยังมีรอยเค้าฝนเมื่อคืน แต่วันนี้ไม่มีฝนแล้วรอเพียงแสงแดดยามสายเข้ามา
อากาศวันนี้แจ่มใสดี อุณหภูมิน่าจะอยู่ประมาณ ๒๑ - ๒๒ องศา กำลังสบายเลย หลังเสร็จภาระกิจแล้วก็ออกจากที่พัก อันดับแรกเลยคือตุนเสบียงอาหารไว้ก่อน โดยแวะซื้อที่ร้านขายในเส้นทางเดินไปสถานีรถไฟนั่นเอง
เที่ยวแบบเราก็งี้แหละ..กินง่ายๆ ซื้ออาหารแบบสำเร็จรูปเหมือนร้านเซเว่นบ้านเรา ส่วนเวลากินก็ไปหาข้างหน้าเอา ร้านที่เราซื้อคือร้าน Family Mark มีให้เลือกเยอะเลย
ก่อนออกจากที่พักเราก็เตรียมหาข้อมูลจาก Internet ไว้แล้ว แต่พอมาถึงสถานที่จริงเพื่อจะซื้อตั๋วรถไฟฟ้าใต้ดินเริ่มสับสนและงงไปหมด แต่ไม่เป็นไรต้องใช้ความสามารถหน่อยก็แล้วกัน เมื่อมองดูแล้วทำไมมันมีที่จำหน่ายตั๋วมากมาย จะไปซื้อที่ไหนล่ะ คนก็เยอะลายตาไปหมด
ทุกอย่างมันใช้วิธีหยอดๆ กดๆ เท่านั้น หลังจากที่งงอยู่พักหนึ่งในที่สุดก็ได้ตั๋วมาแล้ว..เย้.. จากนั้นต้องรีบเดินและเดินให้เร็วไปตามลูกศรบอกทางเพื่อยังจุดหมายคือไปตรงที่ขึ้นรถไฟให้ทันเวลา
คนญี่ปุ่นนี้ยอมรับเลยว่าเดินเร็วมากเลย หลังจากเดินถึงบันไดเลื่อนทุกคนจะยืนชิดซ้ายกันหมดเลย เข้าแถวต่อคิวตรงเป๊ะ เวลาเดินสวนกับเด็กๆญี่ปุ่นพวกเค้าจะโค้งและพูดว่าสวัสดีครับโดยไม่สนใจว่าจะมีใครตอบกลับหรือไม่
เห็นป้ายแล้วจ้า พร้อมลูกศรบอกทิศทางไปขึ้น Shinkansen ซ่ะ ๆ

10/07/2014

10 สิ่งต้องตระหนักเมื่อผจญภาวะท้องผูก

10 สิ่งต้องตระหนักเมื่อผจญภาวะท้องผูก
โดย นพ.กฤษดา ศิรามพุช 

ของกินจะอร่อยนัวแค่ไหนแต่ถ้าลำไส้ไม่ดีก็หมดกัน เรื่องท้องไส้ เป็นเรื่องสำคัญมากครับ สมัยยังเด็กนึกอยากกินอะไรตามใจสักเพียงใดก็ไม่กังวลนักด้วยไม่มีปัญหา “เบื้องล่าง” แต่เมื่อมีอายุเข้าหรือได้ประสบปัญหาทางเดินอาหารแบบไม่คาดคิดจึงทำให้ของอร่อยพาลหมดอร่อยไป
      
       ไม่อยากกินเมื่อนึกถึงปัญหาที่จะตามมา
      
       ไม่ว่าริดซี่(ริดสีดวงทวาร),โรคกระเพาะ, กรดไหลย้อนหรือเรื่องง่ายๆ อย่าง “ท้องผูก” นี่ละครับ สำหรับเรื่องนี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากับคนที่เป็นอย่างน่าเห็นใจ
      
       เพราะกินเข้าไปแล้วแสนอึดอัด
      
       การที่มันไม่ออกมาหรือว่ากว่าจะออกนั้นแสนลำบากเจ็บปวดทำให้หลายท่านเข็ดขยาด ทำให้ชีวิตหมดสีสันไป ของที่เคยอร่อยก็หมดอร่อย
      
       กร่อยเพราะท้องผูก
      
       ซึ่งที่จริงแล้วการแก้ปัญหาท้องผูกจะไม่ยากหากรู้ “ต้นตอ” ของมันว่าอะไรที่ทำให้ “ถ่ายไม่ปกติ” แต่อย่างแรกต้องทราบก่อนว่าสรีระวิทยาแห่งการขับถ่ายของเสียนั้นมีอะไรประกอบอยู่บ้าง
      
       3 กลไกช่วยให้ถ่ายดี
      
       - เส้นทางดี นั่นคือ ลำไส้ที่เป็นช่องอุโมงค์โล่งดีไม่มีอะไรมากั้นขวางหรือเบียดตัน
      
       - วัตถุดิบดี คือ มีเส้นใยในกากอาหารและกากนั้นไม่แข็งหรือเหนียวมากจนเกินไป
      
       - พลังขับเคลื่อนดี มีแรงส่งจากลำไส้และแรงเบ่งกำลังดีที่เหมาะสม
      
       ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นระบบขับถ่ายที่มีประสิทธิภาพ แต่เมื่ออายุมากขึ้นท่านจะสังเกตว่ามันอาจมีปัญหาได้ เพราะกล้ามเนื้อที่ออกแรงลดลง, ลำไส้บีบตัวไม่ดีและอาหารที่รับประทานได้น้อย
      
       นอกจากนั้นยังมีสิ่งที่ต้องนึกถึงเมื่อท้องผูกอีกเป็นขบวนต่อไปนี้ครับ
      
       10 เรื่องที่เกี่ยวกับท้องผูก
   
10 สิ่งต้องตระหนักเมื่อผจญภาวะท้องผูก/นพ.กฤษดา ศิรามพุช
        1) ถ่ายไม่เป็นเวลา ท่านที่ไม่ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลาเดียวกันนั้นอาจนำไปสู่โรคท้องผูกในที่สุด เพราะลำไส้ก็เหมือนกับอวัยวะอื่นที่ต้องมี “นาทีทอง” ของการทำงานเช่นเดียวกัน
      
       โดยลำไส้ใหญ่จะบีบตัวเป็นลูกคลื่นโตๆ แค่ 1-3 ครั้งต่อวัน แต่มันช่วยขับกากอาหารทั้งขบวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยถ้าท่านฝึกปลุกลำไส้ให้ตรงเวลามันก็จะทำงานให้ท่านได้อย่างน่าประทับใจยิ่งครับ
      
       2) ชอบอั้นถ่าย ชีวิตคนยุคใหม่ทำให้การ “กลั้นถ่าย” เป็นเรื่องที่เกิดอยู่เสมอๆ
      
       การอั้นถ่ายหนักบ่อยๆก็เหมือนกับการ “ฝืนธรรมชาติ” ครับ เพราะโดยสรีระแล้วของเสียที่มีปริมาณมากพอจะกระตุ้นลำไส้ให้รู้สึก “ปวดอัตโนมัติ” ดังนั้นถ้าท่านที่รักทำตามกระแสได้จะดีครับ
      
       3) แคลเซียมมากไป การได้รับแคลเซียมมากไป (Hypercalcemia) จากอาหารประจำวันหรือผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียมมีส่วนทำให้เกิด “ท้องผูก” ได้ง่ายๆ
      
       จากที่ได้คุยกับคนไข้หลายท่านบอกว่าไม่คิดว่า “แคลเซียมธรรมดา” ที่กินอยู่ทุกมื้อจะทำให้เกิดได้ เลยอยากฝากไว้เผื่อท่านที่ท้องผูกไม่หายลองพักแคลเซียมไว้ แล้วสังเกตอาการดูร่วมกับดื่มน้ำให้เยอะครับ
      
       4) มะเร็งลำไส้ใหญ่ ในท่านที่มีท้องผูกบ่อยๆ หากร่วมกับสัญญาณอื่นอย่างเบื่ออาหาร, ผอมลง,ถ่ายผูกสลับเหลวและบางรายมีเลือดปนด้วยก็ต้องระวัง “โรคที่คุณก็รู้ว่าอะไร” ไว้ด้วยนะครับ
      
       โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal cancer) ที่ทำให้มีอาการท้องผูกเรื้อรังร่วมด้วยได้
      
       5) นึกถึงลำไส้แปรปรวน อาการลำไส้แปรปรวน (IBS) จะทำให้ท้องอืด, ผูกหรือในบางท่านสลับท้องเสียได้ มักพบในท่านที่เหนื่อย เพลีย อ่อนล้า ทำงานหนักหรือหนักอกหนักใจเรื่องใดๆในชีวิตจะทำพิษกับลำไส้ให้ป่วนจนท้องผูกได้
      
       6) ไทรอยด์ต่ำทำให้ท้องผูกได้ เป็นอีกโรคหนึ่งที่ทำให้มีอาการทางลำไส้ได้เช่นท้องผูก,ท้องอืดแน่น มีอาการคล้ายโรคกระเพาะแต่เป็นเรื้อรังไม่หายสักที มักร่วมกับมีอวบขึ้นบวมขึ้นทั้งที่กินก็ไม่มาก
      
       หากมีอาการเช่นว่าก็อย่าเพิ่งตกใจไป ขอให้ลองเจาะเลือดตรวจไทรอยด์ดูก่อนแล้วแก้ได้ครับ
      
       7) ทำให้เกิดแผลปากทวาร ในเด็กเล็กที่ท้องผูกบ่อย ปล่อยเข้าห้องน้ำเองร้องจ๊ากทุกทีมีอาการหวาดผวานั่งกระโถน
       ขอให้นึกถึงโรคแผลปริที่ปากก้น (Anal Fissure) นี้ไว้ เพราะมันมาจากท้องผูกแล้วเบียดบาดก้นอ่อนจนเป็นแผล ค่อยแก้เรื่องท้องผูกฝึกการเข้าห้องน้ำแล้วจะตัดวงจรแผลนี้ได้ขาดครับ
      
       8) ริดสีดวงตามมา เมื่อท้องผูกบ่อย ประกอบกับปัจจัยอีก 2-3 อย่างอาจสร้างให้เกิดตุ่มพองของเส้นเลือดขอดที่ทวารหนักได้ ทำให้เกิดเลือดออกหรืออาการเจ็บปวดตามมาพร้อมกับคลำได้ติ่งที่เหมือนนินจาโผล่บ้างผลุบบ้างตามระยะของมัน
       ถ้าเป็นเช่นนี้ขอให้แก้เรื่องท้องผูกก่อนจะช่วยได้มากครับ
      
       9) ผูกได้ในคนท้อง ในสาวๆ ที่มีน้องในท้องขอให้ระวังท้องผูกตามธรรมชาติที่อาจเกิดได้เมื่อเริ่ม “ท้องแก่” และเกิดไปเรื่อยจนกว่าจะคลอด เพราะท้องที่ป่องขึ้นทุกวันคืนจะเพิ่มแรงดันให้ขยุ้มเส้นเลือดเบ่งบานขยายออกเป็นริดสีดวงที่ทวารหนักได้
      
       ในคนท้องจึงต้องดูแลเรื่องอาหารดีๆ ด้วยจะได้ช่วยการขับถ่ายครับ
      
       10) เบาหวานทำท้องผูกได้ เรื่องหวานๆ อย่างน้ำตาลสูงในเลือดถ้านานถึงระดับหนึ่งจะเริ่มไปเยี่ยมเยียนตามที่ต่างๆ อย่างจอตา, ลงไตหรือที่ “ลำไส้” ก็ไปได้ เพราะความหวานไปทำให้ “หลอดเลือด” และ “เส้นประสาทเสื่อม” ทั่วราชอาณาจักร
      
       โดยหลักๆ แล้วตามปลายอวัยวะต่างๆ อย่างลำไส้ก็ทำให้เส้นประสาทที่คุมเสียไปทำให้ขี้เกียจทำงานเกิดอาการท้องอืด, กรดไหลย้อน, ท้องเสีย หรือท้องผูกเรื้อรังได้
      
       อาการท้องผูกที่ว่าไปนี้หลายท่านหนักที่อาการถ่ายยากและหลายวันกว่าจะถ่าย เพื่อให้เกิดความประทับใจมากขึ้นบางท่านจึงเลือกใช้ “ทางลัด” อย่างยาถ่ายหรือการดีท็อกซ์ลำไส้เพื่อให้ “ระบาย” ออกมาจะได้สบายตัว อีกทั้งเกรงว่าท้องผูกนานจะเก็บสารพิษไว้บานตะไท
      
       ซึ่งในกรณีหลังนี้ขอให้ลองรับประทาน “อาหารดีท็อกซ์” แบบธรรมชาติดูด้วยนะครับ อย่างแกงส้มรสจี๊ด(มีมะขามเปียก),  ผักชะอมชุบไข่ทอด(ชะอมมีใยอาหารมาก), ใบขี้เหล็ก(ช่วยระบายได้), กระเจี๊ยบอ่อน(ฝักเรียวเขียวมีเมือกใสช่วยถนอมลำไส้)
      
       นอกจากนั้นผลไม้แบบไทยๆที่ช่วยได้ก็มีกล้วยน้ำว้า, มะละกอ, สับปะรด, ส้มโอ, ลิ้นจี่ ที่ช่วยให้การเข้าห้องน้ำเป็นเรื่องน่าประทับใจขึ้น
      
       แถมอย่าลืม “ออกกำลังกาย” ช่วยด้วยอีกแรงนะครับ
(โดย..นพ.กฤษดา ศิรามพุช)

10/05/2014

ผักแต้ว

ต้นแต้วบ้านต้องตา
ชื่อ"ผักแต้ว/ผักติ้ว

ชื่อพื้นเมือง "แต้ว(ไทย) ติ้วขน(กลางและนครราชสีมา)
ติ้วแดงติ้วยางติ้วเลือด(เหนือ) แต้วหิน(ลำปาง)
กุยฉ่องเซ้า(กระเหรี่ยง ลำปาง) กวยโซง(กระเหรี่ยง
กาญจนบุรี)ตาว(สตูล)มู โต๊ะ(มาเลเซีย-นราธิวาส)
เน็คเคร่แย(ละว้า-เชียงใหม่)รา เง้ง(เขมร-สุรินทร์)ติ้วขาว
(กรุงเทพฯ)ติ้วส้ม(นครราชสีมา )เตา(เลย)ขี้ติ้ว ติ้วเหลือง
(ไทย) ผักติ้ว(อุบลราชธานี มหาสารคาม-อีสาน)

ประโยชน์ทางอาหาร

ส่วนที่เป็นผัก/ฤดูกาล ยอด อ่อนใบอ่อนและช่อดอกอ่อนรับประทานเป็นผักได ยอดอ่อนและใบอ่อนผลิใน
หน้าฝนและหน้าหนาว ส่วยดอกออกสะพรั่งในช่วงปลายฤดูหนาว ฤดูร้อน ถึงต้นฤดูฝน
การปรุงอาหาร ชาวไทยภาคกลางและชาวอีสานรับประทานผักแต้วเป็นผักโดยที่ชาวไทยภาคกลาง
รับประทานยอดแต้วอ่อน เป็นผักสดแกล้มกับน้ำพริกปลาร้า ดอกแต้วมีรสเปรี้ยวนิดๆจิ้มกับน้ำพริก
ปลาร้ามีรสอร่อยมาก ส่วนชาวอีสานรับประทานยอดอ่อน ใบอ่อนและช่อดอกเป็นผักสดแกล้มลาบ ก้อย น้ำพริก ซุป หมี่กะทิ หรือนำไปแกง เพื่อให้อาหารออกรสเปรี้ยว(เป็นเครื่องปรุงรส) ส่วนดอกนำไปต้ม
แกง บางครั้งแกงรวมกันทั้งยอดอ่อนและดอกอ่อนเป็นผักที่ชาวอีสานนิยมรับประทานมาก ชนิดหนึ่ง
และมีจำหน่ายในท้องตลาดของท้อง ถิ่นอีสาน

รสและประโยชน์ต่อ สุขภาพ

ยอดอ่อนและดอกอ่อนของผักติ้วมี รสเปรี้ยว ผักติ้ว 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 58 กิโลแคลอรี่
ประกอบด้วยเส้นใย 1.5 กรัม แคลเซี่ยม 67 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 19 มิลลิกรัม เหล็ก 2.5 มิลลิกรัม
เบต้า-แคโรทีน 4500 ไมโครกรัม วิตามินเอ 750 ไมโครกรัมของเรตินอล วิตามินบีหนึ่ง 0.04 มิลลิกรัม
วิตามินบีสอง 0.67 มิลลิกรัม ไนอาซิน 3.1 มิลลิกรัม วิตามินซี 58 มิลลิกรัม

ข้อมูลพิเศษ เกี่ยวกับคุณค่าทางเภสัชของผักติ้วในแวดวงวิทยาการ

นัก วิจัย ม.ขอนแก่น นำพืชสมุนไพร 14 ชนิดจากโคกภูตากา อุทยานแห่งชาติภูเวียงศึกษาศักยภาพเบื้องต้นในการป้องกันมะเร็ง เผยผลการทดลองสารสกัดจาก “ใบติ้ว” ผักพื้นบ้านภาคอีสาน มีฤทธิ์ต้านมะเร็งตับ และไม่พบทำลายเซลล์ปกติ ส่วนด้านการรักษาอยู่ในระหว่างการทดลอง พร้อมทดลองในเซลล์เม็ดเลือด เซลล์มะเร็งเต้านม

10/04/2014

นิ่วในไต

"นิ่วในไต" จากการทานน้ำดำ เพราะในน้ำดำมีคาเฟอีนสูง





"คาเฟอีน" มีผลต่อการขับแคลเซียมออกทางปัสสาวะเพิ่มขึ้น ทำให้ตกตะกอนเป็นนิ่ว และทำให้มีโอกาสสูญเสียแคลเซียมจากร่างกาย และผลจากฟอสเฟตสูงในน้ำอัดลม ทำให้ระดับแคลเซียมในร่างกายต่ำลง

นอกจากจะเป็นนิ่วแล้ว ยังกระดูกพรุน กระดูกเปราะด้วยนะคับ และถ้าคนกลุ่มนี้โชคร้ายเป็นมะเร็ง เวลารักษาคีโมก็จะยิ่งทำลายมวลกระดูก มะเร็งจะลามไปที่กระดูกได้ง่าย เจ็บปวดทรมาณมาก ๆ

ไม่ใช่น้ำดำอย่างเดียวที่มีคาเฟอีนสูง ยังมีกาแฟสด กาแฟดำ ที่มีคาเฟอีนไม่แพ้น้ำอัดลมค่ะ ผลที่ได้ก็จะคล้าย ๆ กัน

เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มสมุนไพรแบบไม่ใส่น้ำตาลดีกว่า เพื่อสุขภาพ และลดความเสี่ยงของการก่อโรคอีกหลายโรคเลยนะคับ
(ที่มา..คนใต้.คอม)

10/02/2014

วิธีป้องกันมดและแมลงสาบขึ้นถังขยะ


มดและแมลงสาบนั้นถือเป็นแมลงที่ทำความเดือดร้อนรำคาญให้กับบ้านเรือนของเรา อยู่ไม่น้อยทีเดียวนะคับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมดและแมลงสาบที่ชอบขึ้นถังขยะภายในบ้านของเรา วันนี้บล็อกนานาเคล็ดลับมี วิธีป้องกันมดและแมลงสาบ ไม่ให้ขึ้นถังขยะของเราได้ง่าย ๆ คับ

วิธีก็คือให้เราทำการเหยาะแอมโมเนียสักเล็กน้อยลงบริเวณข้างถังขยะ กลิ่นของแอมโมเนียจะช่วยให้มดและแมลงสาบไม่กล้าเข้ามาใกล้ ดังนั้นเราจึงสามารถป้องกันไม่ให้มดและแมลงสาบมาก่อความเดือดร้อนรำคาญ บริเวณถังขยะภายในบ้านของเราได้นั่นเองน่ะนะคับ

(ข้อมูลจาก คนใต้.คอม)

10/01/2014

ไม่แก่ (ปัสสาวะ) ก็รั่วได้

วิถีเร่งรีบของคนเมืองบางเวลาก็ทำให้ผู้คนละเลยกับการเข้าห้องน้ำ และอั้นระบบการขับถ่ายกันจนชิน ไม่แปลกถ้าวันหนึ่งอาการปัสสาวะเล็ด หรือปัสสาวะรั่วไหลโดยไม่ตั้งใจจะเกิดขึ้น แม้จะยังไม่ใช้วัยที่ควรเจอโรคเหล่านี้ก็ตาม

ผศ.นพ.วิทย์ วิเศษสินธุ์ หน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยว่า ปัจจุบันอาการกลั้นปัสสวะไม่อยู่ พบในผู้หญิงวัยทำงานเพิ่มขึ้น สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของอวัยวะที่มีส่วนในการควบคุมการปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ ระบบหูรูด กล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกราน ระบบประสาทที่ควบคุมการกลั้นและขับปัสสาวะ

          ทั้งนี้ ยังรวมถึงพฤติกรรมเสี่ยงบางอย่าง เช่น การดื่มน้ำน้อย กลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานทำให้กระเพาะปัสสาวะเกิดการบีบตัวผิดปกติ จนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ นอกจากนั้นคนที่เคยผ่าตัดมดลูกมาก่อนอาจมีการเสื่อมของหูรูดและการหย่อนยานของผนังช่องคลอดรวมทั้งบริเวณคอกระเพาะปัสสาวะ ทำให้บริเวณคอกระเพาะปัสสาวะปิดไม่สนิทจึงเกิดอาการปัสสาวะรั่วออกมา และในวัยสูงอายุและประจำเดือนหมดแล้วฮอร์โมนเพศหญิงจะลดลง ทำให้เยื่อบุในท่อปัสสาวะขาดความยืดหยุ่นระบบการปิดกั้นของท่อปัสสาวะลดลง ทำให้ปัสสาวะรั่วซึมได้เช่นกัน โดยอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ พบได้ในทุกเพศทุกวัย แต่จะพบมากผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป

          "อาการที่เสี่ยงต่อภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่สังเกตได้จากการปวดราด คือปวดปัสสาวะรุนแรงจนเล็ดราดออกมา ไม่สามารถรอไปเข้า ห้องน้ำได้ทัน หรือปัสสาวะเล็ดจากการไอ จาม หรือหัวเราะอาการลักษณะนี้มักพบในผู้หญิงที่เริ่มมีอายุมากขึ้น น้ำหนักตัวมาก เคยมีประวัติคลอดบุตรหลายคนไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีธรรมชาติ หรือผ่าตัด เคยมีการผ่าตัดบริเวณรอบท่อปัสสาวะ หรือเคยรับการฉายรังสีรักษาบริเวณนั้น มาก่อน สุดท้ายคือเมื่อปวด ปัสสาวะก็ไหลออกมาเลย โดยไม่สามารถกลั้นได้ อาการเหล่านี้จะทำให้ผู้ป่วยเกิดความรำคาญ มีผลต่อสุขภาพจิต และการดำเนินชีวิตประจำวัน ส่งผลให้ผู้ป่วยสูญเสียความมั่นใจที่จะเข้าสังคม ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงได้" ผศ.นพ.วิทย์ กล่าว  การรักษามีหลายวิธี ทั้งกินยารักษา ใช้ฮอร์โมนทดแทน การฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน โดยการขมิบช่องคลอด หรือแม้แต่การ ผ่าตัด

          อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ลดน้ำหนัก อย่าให้ท้องผูก งดสูบ บุหรี่ งดดื่มกาแฟ โซดา น้ำอัดลม เนื่องจากมีสาร กระตุ้นให้เกิดการขับถ่ายบ่อย และไม่ควรกลั้น ปัสสาวะนานๆ จนทำให้เกิดอาการเหล่านี้ตามมาได้

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

9/29/2014

7 สุดยอดอาหารอร่อย ประโยชน์เพียบ

จิตใจแจ่มใส ร่างกาย แข็งแรง ชีวิตมีความสุข หากรู้จักเลือกรับประทานแต่สิ่งที่มีคุณต่อร่างกาย

1. รากบัว

เป็นพืชจำพวกสมุนไพรที่จัดว่าเป็นยา มีฤทธิ์เย็นช่วยลดอาการร้อนใน ทั้งยังช่วยสร้างสมดุลของร่างกายได้จากรากของบัวหลวง สามารถทานได้ทั้งสุกและดิบ รากบัวที่ดีจะมีลักษณะสีขาวอวบใหญ่ ก่อนนำมาประกอบอาหาร ล้างขูดเปลือกนอกออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นแล้วแช่ในน้ำผสมเกลือเล็กน้อย พักไว้ให้สิ่งสกปรกหลุดออก น้ำรากบัวคั้นสด หรือต้มนำไปแช่ให้เย็นแล้วดื่มร่างกายจะสดชื่นทันที เพราะในรากบัวมีสารช่วยดูดซึมความชุ่มชื่นค่ะ
ปลาทูน่า

2. ทูน่า

ปลาทะเลที่อุดมด้วยโปรตีนชั้นเยี่ยมที่ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์อื่น ๆ แล้วยังมีไอโอดีนช่วยป้องกันโรคคอพอก ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายให้เจริญเติบโตตามวัย ไขมันที่ได้จากปลาทูน่าจัดเป็นไขมันชนิดดีที่จะช่วยป้องกันการสะสมของ "ไขมันอิ่มตัว" หรือ "คอเลสเตอรอล" ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เส้นเลือดอุดตัน รวมถึงทูน่าในแบบกระป๋องก็ยังอุดมด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ในปริมาณที่เท่ากับปลาสด เช่นเดียวกันค่ะ กรดไขมันเหล่านี้ช่วยป้องกันหัวใจเต้นผิดจังหวะ การอักเสบและการก่อตัวของลิ่มเลือดในหลอดเลือด ปลาทูน่ายังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

3. เต้าหู้

ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองที่อุดมด้วยโปรตีนสูง เทียบเท่าหรือมากกว่าเนื้อสัตว์ บางชนิดถึงสองเท่าในปริมาณที่เท่า ๆ กัน จึงเป็นที่นิยมรับประทานทดแทนเนื้อสัตว์ เต้าหู้ย่อยง่าย ไม่มีคอเลสเตอรอล และราคาก็ไม่แพงจนเกินไป ด้วยความหลากหลายชนิดของเต้าหู้จึงง่ายต่อการเลือกใช้ได้ตามวัตถุประสงค์ มาอร่อยง่ายและเร็วกับเต้าหู้ขาวนิ่มแบบญี่ปุ่น เพียงแกะออกจากห่อใส่ลงในถ้วยนำไปอุ่นในไมโครเวฟเพียงไม่กี่นาที เติมซีอิ๊วญี่ปุ่นเล็กน้อยก็อร่อยได้แล้วค่ะ
น้ำมันรำข้าว

4. น้ำมันรำข้าว

ผลผลิตที่สกัดจากรำข้าวที่อุดมด้วยสาระสำคัญทางธรรมชาติที่มีคุณประโยชน์สูงต่อร่างกาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคมะเร็ง ลดความเครียดได้อีกด้วย มาเติมเต็มทุกมื้ออร่อยด้วย Ricely น้ำมันรำข้าวแท้ 100% ที่มีสารธรรมชาติ "โอรีซานอล" รวมทั้งมีไฟโตสเตอรอลและวิตามินอี ที่มีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ด้วยคุณสมบัติพิเศษไม่มีกลิ่นและไม่มีรส จึงทำให้อาหารทุกจานเข้าถึงรสแท้ของส่วนผสมและเครื่องปรุง ทั้งยังทนความร้อนสูง จึงเหมาะในการนำมาประกอบอาหารได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะใช้ทอด ผัด หมัก อบ ย่าง หรือนำมาเป็นส่วนผสมของน้ำสลัด

5. มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น)

ผลิตผลแปรรูปจากถั่วเหลืองด้วย การหมัก อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ และโปรตีนสูง ยังอุดมด้วยกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการถึง 17 ชนิด มีสารชูรสที่มีประโยชน์และกลิ่นหอม ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในระหว่างการหมักที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย มิโซะมีรสคล้ายสารสกัดจากเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำมาใช้เป็นเครื่องปรุงอาหารทดแทนโปรตีนสำหรับของผู้ที่เว้นการทานเนื้อสัตว์ อร่อยกับน้ำสลัดมีโซะง่าย ๆ โดยละลายมิโซะกับน้ำมันงา น้ำตาลทรายแดง งาบด และเกลือนิดหน่อย ใครชอบรสเปรี้ยวเติมน้ำส้มสายชูเท่านี้ ก็ได้เป็นน้ำสลัดอร่อย ๆ แล้วค่ะ

6. เห็ดหลินจือแดง

ถือเป็นสมุนไพรชั้นสูงที่หายาก คุณสมบัติเทียบเท่ากับ "โสม" เป็นยาอายุวัฒนะที่สามารถคืนพลังให้ชีวิต มีสารต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายกว่า 250 ชนิด ซึ่งสารต่าง ๆ เหล่านี้ทำงานประสานกันได้อย่างน่าอัศจรรย์ ช่วยยืดอายุให้ยืนยาว ช่วยบำรุงร่างกายแล้วยังทำให้ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ชัดเจน และความจำดีขึ้น ช่วยการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสีหน้าแจ่มใส ชะลอความแก่ ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคและกำจัดสารพิษให้ร่างกายทำงานเป็นปกติ อีกทั้งช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง "เห็ดหลินจือแดง" ถือว่าเป็น "สุดยอดแห่งสมุนไพร" ที่เป็นที่ยอมรับกันไปทั่วโลก

7. พรุน

ผลไม้มหัศจรรย์ ที่อุดมไปด้วยกากใยหรือไฟเบอร์สูงมากมีคุณสมบัติทำให้ขับถ่ายได้คล่อง เป็นยาระบายได้อย่างปลอดภัยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ยังอุดมด้วยสารอาหารต่าง ๆ มีส่วนช่วยในกระบวนการสังเคราะห์เม็ดเลือดแดง ช่วยการไหลเวียนของโลหิต ช่วยยืดอายุของเม็ดเลือดแดง ทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่มชุ่มชื้น ไม่เหี่ยวย่นก่อนวัยอันควร รักษาระดับการเต้นของหัวใจ ช่วยระบบประสาทให้เป็นปกติ ช่วยป้องกันเซลล์จากการถูกทำลาย มี Anti-oxidant ในปริมาณสูงจะช่วยทำให้ร่างกาย และสมองแก่ตัวช้าลง และมีอัตราการเกิดโรคมะเร็งน้อยลง ปัจจุบันมีการนำพรุนมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำผลไม้หรือนมเปรี้ยวที่มีรสชาติอร่อย และได้ประโยชน์ไปพร้อมกัน

ข้อมูลจาก goosiam.com

9/28/2014

ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าว


13 คุณประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวที่คุณอาจจะยังไม่รู้


 ‪
1. ‎น้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาใช้แทนน้ำมันชนิดต่าง‬ ๆ ในการประกอบอาหารและเบเกอรี่ได้โดยไม่มีผลต่อรสชาติอาหาร นั่นเพราะน้ำมันมะพร้าวมีไขมันดีชนิดอิ่มตัวถึง 92% โดยส่วนใหญ่จะเป็นกรดไขมันที่มีขนาดโมเลกุลปานกลางเช่น กรดลอริก กรดคาปริก และกรดคาปริลิก ซึ่งเมื่อรับประทานและถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะถูกเผาผลาญได้ดี ขณะที่น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มมีไขมันอิ่มตัวเพียงราว ๆ 14-15% หรือน้ำมันรำข้าวก็มีเพียง 18% เท่านั้น

2. ในต่างประเทศนิยมใช้น้ำมันมะพร้าวแทนเนย‬ หรือมาการีนซึ่งอุดมไปด้วยไขมันทรานส์(Transfat) กรดไขมันอิ่มตัวสูงที่ได้จากการแปรรูป โดยน้ำมันมะพร้าวเมื่อนำไปปรุงอาหารจะไม่ก่อให้เกิดไขมันทรานส์ แต่จะยังคงความหอมอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น คอนเฟิร์มโดยผลวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ยืนยันว่า การบริโภคไขมันทรานส์น้อยลงจะลดอัตราการเกิดโรคหัวใจได้ถึง 50% เลยทีเดียว ‪

3. น้ำมันมะพร้าวหากนำมารับประทานคู่กับกระเทียม‬ จะถือเป็น Super antioxidant ที่สามารถลดโอกาสการเกิดโรคร้ายแรงบางชนิด ได้ เช่น โรคหัวใจ เพราะน้ำมันมะพร้าวมีคอเลสเตอรอลน้อยมาก น้อยกว่าน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันพืชตัวอื่น ๆ ที่ใช้กันอยู่ และวิตามินอีในน้ำมันมะพร้าว จะช่วยลดความหนืดของเลือด ขยายหลอดเลือด และป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ ส่วนกระเทียมก็มีสารประกอบของกำมะถันสูงมาก และยังมีสารสำคัญอีกกว่า 30 ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ‪4. การรับประทานน้ำมันมะพร้าวในช่วงตั้งครรภ์จะช่วยทำให้ทารกมีภูมิคุ้มกันที่ดี‬ และยังช่วยเพิ่มคุณค่าของน้ำนมแม่อีกด้วย นั่นเพราะในน้ำมันมะพร้าวอุดมไปด้วยแคลเซียมและแมกนีเซียม ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง รวมทั้งป้องกันภาวะกระดูกพรุน หรือการสูญเสียแคลเซียมของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์และให้นมลูกน้อย ‪

5. ถ้าคุณนอนไม่ค่อยหลับ‬ น้ำมันมะพร้าวช่วยคุณได้ เพราะน้ำมันมะพร้าวนั้นอุดมไปด้วยกรดลอริก กรดคาปริก และกรดคาปริลิก ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลาย การรับประทานน้ำมันมะพร้าวติดต่อกันทุกวันในปริมาณเพียงเล็กน้อยจะช่วยให้คุณนอนหลับได้สนิทขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง ลดความเครียด และอาการอ่อนเพลียได้ด้วย ‪

6. การรับประทานน้ำมันมะพร้าวก่อนมื้ออาหาร‬ 3 เวลา จะช่วยลดปัญหาโรคเบาหวาน และหากนำไปผสมกับชา กาแฟ หรือโกโก้ ก็จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ และการติดเชื้อในลำคอได้อีกต่างหาก กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวเป็นสารตัวเดียวกับนมน้ำเหลืองจากแม่ ซึ่งจะเปลี่ยนเป็น "มอโนลอริน"ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน และมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค เป็นทั้งยาปฏิชีวนะกำจัดเชื้อโรคชนิดที่มีเกราะหุ้มเซลล์เป็นไขมัน เช่น เชื้อไข้หวัดใหญ่เริม คางทูม เป็นต้น ‪

7. สำหรับใครที่ชอบรับประทานข้าวมันไก่เป็นชีวิตจิตใจ‬ คุณสามารถอร่อยอย่างมีสุขภาพได้แล้ววันนี้ โดยใช้น้ำมันมะพร้าวหุงข้าวแทนน้ำมันจากไก่ หรือน้ำมันชนิดอื่น ด้วยวิธีทำที่ง่ายมาก เพียงใส่น้ำมันมะพร้าวผสมกับข้าวที่ซาวแล้วพร้อมหุง จากนั้นก็ตามด้วยกระเทียมและพริกไทย เพียงเท่านี้ก็จะได้ข้าวมันจากน้ำมันมะพร้าวที่หอมอร่อยด้วยคอเลสเตอรอลและไขมันที่น้อยกว่ามาก ‪

8. น้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาใช้ทาเป็นครีมกันแดดได้ยิ่งไปกว่านั้นหากสาว‬ ๆ คนไหนชอบให้ผิวเป็นสีแทนล่ะก็ สามารถทาน้ำมันมะพร้าวแล้วไปนอนอาบแดดได้เลย คุณจะมีผิวสีแทนสวยสมใจ โดยไม่ต้องกังวลกับความหมองคล้ำของฝ้าแดด เพราะนอกจากน้ำมันมะพร้าวจะอุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดดีแล้ว ยังมีวิตามินอีซึ่งจะช่วยป้องกันฝ้าจากแสงแดดได้ด้วย ‪

9. เพราะน้ำมันมะพร้าวมีสารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลังที่จะช่วยควบคุมปริมาณคอเลสเตอรอล‬ ดังนั้น การรับประทานน้ำมันมะพร้าวจึงเป็นหนึ่งในเคล็ดลับเพื่อควบคุมน้ำหนักได้ แต่ถ้าจะใช้วิธีนี้ให้ได้ผล ขอแนะนำให้รับประทานติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป รวมถึงควบคุมอาหาร ควบคู่กับการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่า คุณจะผอมหุ่นเพรียวแถมรีเทิร์นสุขภาพได้อีกต่างหาก ‪

10. หลังสระผม‬ เพียงนำน้ำมันมะพร้าวชโลมผมให้ทั่ว จากนั้นนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นโพกศีรษะทิ้งไว้ราว 15 นาทีจะช่วยคืนความนุ่มและรักษาความแห้งเสียของเส้นผมได้ ไม่ว่าความแห้งเสียนั้นจะมาจากแสงแดด หรือสารเคมีจากการทำสีผม นอกจากนี้ น้ำมันมะพร้าวยังช่วยบำรุงรากผมและสุขภาพหนังศีรษะอีกด้วย

11. น้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชั้นเลิศเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณการทาน้ำมันมะพร้าวทั่วใบหน้าก่อนเข้านอน จะช่วยกักเก็บน้ำใต้ผิวเวลานอนหลับ ทำให้ใบหน้าแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น น้ำมันมะพร้าวยังเป็นอาหารของเซลล์ชั้นดี โดยเซลล์จะดูดซับกรดไขมันสายปานกลาง และเปลี่ยนเป็นพลังงานที่เพิ่มกิจกรรมการเผาผลาญ กระตุ้นการรักษาและฟื้นฟู ทำให้ปัญหารอยด่างดำต่าง ๆ ของผิวหนังหายไป นี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่น้ำมันมะพร้าวมีประโยชน์ในการทำให้แผลสด แผลไฟไหม้ แผลมีหนอง และการบาดเจ็บอื่น ๆ ของผิวหนังและเนื้อเยื่อหายเป็นปกติได้เร็วยิ่งขึ้น

12. ผู้ที่ชื่นชอบการทำสปาด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจขอเชิญทางนี้น้ำมันมะพร้าวสามารถนำมาใช้เป็นน้ำมันนวดเพื่อผ่อนคลายได้ (Oil Massage) โดยน้ำมันมะพร้าวจะดูดซึมเร็วทำให้ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทั้งยังมีการอ้างอิงข้อมูลในสมัยอยุธยาว่า มีการนำน้ำมันมะพร้าวมาใช้รักษาอาการปวด และการอักเสบต่าง ๆของกล้ามเนื้อ ซึ่งในปัจจุบันได้มีข้อพิสูจน์แล้วว่า เป็นเพราะกรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวนั่นเองที่ช่วยบรรเทาอาการต่าง ๆ เหล่านี้

13. หลังจากเราดูสวยใสด้วยการแต่งหน้ามาทั้งวัน‬ พอถึงขั้นตอนการทำความสะอาดใบหน้า น้ำมันมะพร้าวก็กลายเป็นผู้ช่วยที่แสนมหัศจรรย์ไปในทันที ด้วยน้ำมันสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติที่สามารถทำความสะอาดเครื่องสำอางได้อย่างล้ำลึก หมดจด โดยไม่มีสารเคมีตกค้าง ร่วมด้วยการนวดเบา ๆ ขณะชโลมน้ำมันมะพร้าวทั่วใบหน้าก่อนเช็ดทำความสะอาด จะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของต่อมน้ำเหลือง ทำให้เกิดความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น

(ขอขอบคุณข้อมูลจาก ประชาชาติธุรกิจ)

9/08/2014

สถานี Shibuya



ที่สถานี Shibuya คนยังมากเหมือนเดิม เป็นสถานีต้นทางไปสู่ยังชานเมืองต่างๆ ด้านตะวันตกและใต้ของกรุงโตเกียว
 
ฮาจิโกะ..ตำนานแห่ง Shibuya สุนัขยอดกตัญญูก็อยู่ที่นี่ เป็นประวัติตำนานของสุนัขที่รักเจ้าของจนวันตาย หวังว่าคงจะได้อ่านและดูภาพยนต์ผ่านกันมาแล้ว

ถึงแล้วไง Sangenjaya ที่นัดหมายของเรา หลังจากเดินท่ามกลางสายฝนปรอยๆ อากาศเย็นๆ ก็มาถึงที่หมาย เพื่อนมารอรับที่หน้าสถานีรถไฟเลยทีเดียว เพื่อนพาเดินข้ามถนนนิดหน่อยก็ถึงร้านอาหารมื้อเย็น

ไม่ได้เจอกันนาน เพื่อนทั้ง ๓ คน เมื่อครั้งอดีตสมัยเรียนปริญญาโทด้วยกันที่ Columbia University เป็นเพื่อนชาวญี่ปุ่น ๒ คน และเพื่อนชาวอเมริกัน ๑ คน วันนี้ทั้ง ๓ คนมีความตั้งใจจะเลี้ยงอาหารมื้อเย็นให้กับพวกเรา ในโอกาสที่มาเยือนบ้านของทั้ง ๒ คนด้วยความยินดี ดูดิ เพื่อนๆทางญี่ปุ่นเลี้ยงอะไรเราบ้าง
ชุดแรกเป็นออร์เดิร์ฟกินเล่นเพลินๆ ด้วยถั่วแระญี่ปุ่น ถั่วลิสงต้ม อีกอย่างจำไม่ได้แล้วตักใส่มาในถ้วย ตามด้วยปลาดิบ ส่วนน้ำดื่มเป็นน้ำชา ตามด้วยชาบูชาบูชุดใหญ่ น้ำชุบร้อนๆ เฮ่อ เป็นตาแซ่บหลาย และมีอาหารอีก ๒-๓ อย่างไม่รู้จักชื่อ กินไปฝนตกไป

ก่อนจากก็เป็นธรรมเนียมมีการแลกของขวัญซึ่งกันและกัน

8/18/2014

งานวางแผ่นหินทางเดินสนามหญ้า

ในที่สุดก็มาเจอกับงานหินๆอีกแล้ว  เพียงยกแผ่นหินมาเตรียมไว้ก็หนักอยู่แล้ว ยังต้องมาขุดอีกเจอไปหลายหลุมเหมือนกัน ไหนจะรูปร่างหินที่มีรูปร่างแตกต่างกันอีก ดินรึสุดแข็ง แผ่นหินแต่ละแผ่นมีความหนาบางไม่เท่ากัน
แต่ในที่สุดก็สำเร็จได้เพียงบางส่วน คืออาจต้องทำเพิ่มเติมอีกหนึ่งทางแยก เพราะมองดูแล้วทางเดินควรจะมีอีกหนึ่งทางเดิน ไม่งั้นต้องเดินเหยียบหญ้าที่ปลูกไว้แน่ๆ

ถึงจะมีทางเดินป้องกันคนเดินเหยียบสนามหญ้า แต่ก็ไม่พ้นอยู่ดีเพราะยังมีสุนัขอีก ๓ ตัว มันเล่นวิ่งไล่กันทุกวันโดยเฉพาะสนามหญ้าแห่งนี้

6/08/2014

เตรียมตัวเดินทางพบเพื่อน

กลับถึงที่พัก อาบน้ำพักขาหลังจากเดินทอดน่องมาร่วมครึ่งวันแล้ว รอเวลาไปตามนัดเพื่อน วันนี้มีคนเลี้ยงข้าวมื้อเย็นแล้ว
ยังเป็นภาพห้องนอนห้องเดิมให้ดูอีกครั้งหนึ่ง ขนาด ๓ เตียงนอนสบาย มีทีวี เก้าอี้นั่งพร้อมโต๊ะนั่งดื่มน้ำชาหรือนั่งทำงานได้ กระดิกน้ำร้อนพร้อมแก้วครบชุด

นี่ก็เวลา ๑๔.๓๐ น. แล้วถึงเวลาเราต้องออกเดินทางเผื่อไว้ เพราะเส้นทางข้างหน้ายังไม่รู้ว่าจะไปยังไงดี  ไปเลยเริ่มผจญเส้นทางกันได้แล้ว ณ.บัดนี้ เริ่มต้นออกจากสถานีรถไฟ Ueno ไปลงที่ Shijuku ก่อนเพราะต้องแวะไปจองตั๋วรถบัสสำหรับไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิในวันรุ่งขึ้น กันพลาดต้องจองไว้ล่วงหน้าดีที่สุด ต้องขอชมลูกสาวตัวเองวางแผนไว้ดีมาก

     การเดินทางมาที่ Shijuku นั้นเรื่องเล็กมาก เพราะเดินทางผ่านไปมาหลายครั้งแล้ว เมื่อมาถึงแล้วก็เดินหาที่จำหน่ายตั๋ว แต่ว่า..เดินรอบตึกแล้วทำไมมันไม่เห็นห้องจำหน่ายตั๋วไปที่ๆเราจะไปเลย ก็สอบถามเจ้าหน้าที่ขายตั๋วข้างล่างนั่นแหละ ดีจังเค้าก็ชี้และนำทางไปส่งขึ้นชั้น ๒ โธ่..อยู่ที่นี่เอง ว่าแล้วก็ต้องนั่งรอก่อนเพราะรอคิวคนข้างหน้าเรากำลังนั่งสอบถามอะไรอยู่  ไม่เป็นไรเรารอได้อยู่แล้ว

เมื่อจองตั๋วรถบัสสำหรับไว้เดินทางวันพรุ่งนี้แล้ว ทีนี้เราก็จะต้องเดินทางต่อไปหาเพื่อนตามที่นัดไว้ กลับเข้ามาที่สถานี Shijuku เป้าหมายที่เราจะไปต่อ คือ  Shibuya

สถานีรถไฟชินจุกุเป็นศูนย์กลางการเชื่อมต่อสำหรับการจราจรทางรถไฟ ระหว่างใจกลางเมืองโตเกียวกับชานเมืองตะวันตก สถานีแห่งนี้ได้รับการบันทึกเป็นสถานีรถไฟที่มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนคนมหาศาลเดินอย่างไรจึงจะไม่หลงกัน เราเตรียมไว้แล้วคือ เดินให้ทันกันตลอดอย่าให้คาดสายตาเด็ดขาด เพราะเราจะเดินช้าก็ไม่ได้เดี๋ยวคนอื่นจะเหยียบเอาน่ะ ที่สำคัญเมื่อลงจากรถไฟแล้วอย่ารีบเดินไหลไปตามคลื่นของมวลมหาชนเข้าล่ะ ให้ฉีกตัวออกมาจากเส้นทางเดินแล้วรีบเข้าหามุมอับสักทีเป็นที่จอดหายใจตั้งสติก่อนว่าเราจะออกทางไหน ช่องไหน เพราะมันมีที่ออกเกือบทุกทิ่

เห็นมั๊ย การที่จะออกเดินทางออกจากที่นี่ได้ ช่างวุ่นวายดีแท้เพราะคนมากมาย ช่องขายตั๋วก็มากไม่รู้ตรงไหน ผู้คนก็ไหลไปมาจนลายตาไปหมด นั่นแน่..เห็นตัวช่วยแล้ว ลูกสาวเล็งเห็นน้อง ๆ นักเรียนกำลังยืนคุยกันอยู่ เอาล่ะได้การเข้าไปสอบถามเลยดีกว่า ได้ออกจากสถานีเสียที