2/09/2015

ขากลับจาก Askaga Flower Park

ไม่ไหวเดินชมจนเมื่อยขาแล้ว


เตรียมเดินออกจากสวนซะที สบงเสบียงก็กินหมดแล้วไม่มีอะไรให้ถืออีก แต่ก็ยังมีซื้อเมล็ดพันธุ์มะเขือเทศและกระถางเล็กๆติดมือมาด้วย อยากอยู่ใกล้ๆจังจะได้ซื้อกลับบ้านเพิ่ม เบื่อตรงขี้เกียจหิ้วนี่แหละ
ลาทีสถานี Tomita

มารอรถไฟฝั่งตรงข้ามสถานีที่ลงแล้ว เป้าหมายไปลงที่ Oyama


ช่วงนั่งรถไฟกลับเป็นช่วงบ่าย ๓ โมงกว่าๆ ตรงกับเวลาเด็กนักเรียนเลิกนั่งรถไฟกลับบ้านกัน โดยเฉพาะเด็กมัธยม  นั่งไปไอ้เราก็มองสังเกตดูนักเรียนญี่ปุ่นใกล้ๆก็วันนี้แหล่ะว่าแตกต่างจากนักเรียนไทยยังไง  อันแรกที่สังเกตดูเรื่องความสวย น่ารักก่อน เราก็ว่าเด็กนักเรียนไทยสวยและน่ารักมากกว่าน่ะ  ซึ่งวันที่นั่งกินอาหารกันที่คนญี่ปุ่นเลี้ยงวันก่อน ผู้หญิงญี่ปุ่นพูดกับเราว่าผู้หญิงไทยสวยและสวยกว่าคนญี่ปุ่น

มาสังเกตต่ออีกว่านักเรียนญี่ปุ่นมักจะชอบยืนมากกว่านั่ง ยืนอ่านหนังสือ ยืนเล่นโทรศัพท์แต่ไม่มีใครใช้โทรศัพท์พูดคุยขณะอยู่บนรถ เพราะคงเป็นกฎมรรยาทกัน  ส่วนคนที่นั่งหากไม่นั่งหลับก็จะอ่านหนังสือ และนักเรียนหญิงมักจะอ่านหนังสือมากกว่า

ถนนหนทางลาดยางมะตอยสีดำตัดกับเส้นสีขาว สีเส้นคมและชัดเจนมากๆ บ้านเรานี่ใช้สียี่ห้ออะไรน้อ สีมันจึงจืดๆจางๆซีดๆ มองก็ไม่ค่อยจะเห็น คงจะเป็นสีที่ราคาถูกที่สุดนั่นแหละ หลุมบ่อถนนชำรุดก็มองไม่เจอ ถนนเรียบดีจริงๆ แม้แต่บนสะพานลอยพื้นข้างบนก็ลาดยางมะตอยสะอาดดีแท้

ส่วนบ้านเรือนการใช้สีทาบ้านจะเน้นเป็นโทนเดียวกัน ออกแนวทึมๆเช่นดำ เขียวขี้เป็ด เทาเข้ม หลังคาจะมุงด้วยกระเบื้องทั้งหมด แต่ไม่เห็นมีแบบลอนเดี่ยวลอนคู่แบบบ้านเรา

ผ่านทุ่งนามองเห็นข้าวกำลังออกรวงพอดี ต้นข้าวไม่สูงเหมือนบ้านเรา แรงงานที่ใช้เป็นเจ้าของนาเพียงไม่กี่คนนอกนั้นเป็นเครื่องจักรช่วยทั้งหมด ต้นข้าวที่ออกรวงส่วนหนึ่งและที่กำลังงอกอีกส่วนหนึ่งคงปลูกหมุนเวียนตลอดปี

ฝอยซะยาวและแล้วก็ถึงปลายทาง Omiya เตรียมตัวเข้าสู่ความวุ่นวายอีกหน


2/06/2015

กระถางแก้มลิง กับการบังคับมะนาวออกนอกฤดู

กระถางแก้มลิงถือเป็นนวัตกรรมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการปลูกพืชได้หลายชนิด ซึ่งอาศัยหลักการของน้ำใต้ดิน

กระถางแก้มลิงถือเป็นนวัตกรรมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการปลูกพืชได้หลายชนิด ซึ่งอาศัยหลักการของน้ำใต้ดิน โดยนำกระถางเปล่าที่ออกแบบให้มีช่องด้านข้างเป็นช่องซึ่งเจาะไว้สูงจากพื้นประมาณ 10 ซม. เพื่อใช้ระบายน้ำออก แล้วนำกระถางที่มีขนาดเล็กกว่าคว่ำลงไปในกระถางใบแรก พร้อมทั้งติดท่อขนาดสูงกว่ากระถางใบแรกนั้นไว้ใส่น้ำหรือดูดน้ำออก จากนั้นใส่หินปิดก้นกระถางใบที่คว่ำเพื่อไม่ให้วัสดุปลูกร่วงลงไปในก้นกระถางใบใหม่ แล้วจึงใส่วัสดุปลูกลงไปจนมิดกระถางใบใน

หินนี้อาจเลือกเป็นหินก่อสร้างหรือหินภูเขาไฟ ขนาดไม่ใหญ่มาก แล้วตามด้วยดินปลูกเล็กน้อย นำกิ่งพันธุ์ลงปลูกจากนั้นจึงใส่ดินที่เหลือลงไปจนเต็มขอบกระถาง จากนั้นหาไม้มาค้ำและมัดกิ่งเพื่อป้องกันกิ่งพันธุ์โยกอันอาจทำให้รากขาด สุดท้ายเอาน้ำใส่ทางท่อน้ำจนน้ำไหลออกทางรูระบายน้ำ เสร็จแล้วรดน้ำที่โคนต้น เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

นับเป็นวิธีการปลูกอย่างง่าย ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน เมื่อผิวดินแห้งดินที่แทรกอยู่ระหว่างหินซึ่งแช่น้ำอยู่จะดูดความชื้นจากน้ำทางด้านล่างขึ้นมาใช้ การปลูกมะนาว ถือว่าเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เกษตรกรหรือคนที่ต้องการทำเกษตรต้องการปลูก ด้วยปัจจัยด้านราคามะนาวที่ค่อนข้างมีราคาแพงมากในช่วงขาดแคลนอย่างช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนในแต่ละปีบางปีมะนาวมีราคาสูงถึงผลละ 5-10 บาททีเดียว จึงมีการปลูกในรูปแบบของมะนาวกระถางขึ้น

เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย และเหมาะกับชาวกรุงที่อยากจะปลูกมะนาวไว้กินเองอีกด้วย เพื่อตอบสนองคนเมืองที่อยากปลูกมะนาว ด้วยวิถีชีวิตของคนเมือง อาจมีเวลาในการดูแลใส่ใจรดน้ำมะนาวได้ไม่สม่ำเสมอ จึงได้มีการปลูกมะนาวในกระถางแก้มลิงขึ้น ในช่วงแรกของการปลูกมะนาว รากมะนาวยังเดินไม่เต็มที่ ควรรดน้ำบ่อย ๆ แต่หลังจาก 1 เดือนไปแล้ว รากจะงอกผ่านช่องของชั้นหินไปดูดน้ำที่อยู่ด้านล่าง จึงค่อยเว้นระยะการรดน้ำออกไปได้นานขึ้น

สำหรับการใส่ปุ๋ยสามารถใช้ปุ๋ยของผักไฮโดรโปนิกส์ได้ ส่วนด้านบนให้เสริมด้วยปุ๋ยคอก วิธีนี้จะทำให้โรคแมลงและศัตรูพืชน้อยลง เนื่องจากมะนาวในกระถางแก้มลิงจะมีทรงพุ่มเล็ก ต้นเตี้ย ดูแลรักษาง่าย ทำให้ลดการใช้สารเคมีฆ่าแมลง แต่จะใช้น้ำส้มควันไม้ฉีดพ่นได้อย่างทั่วถึง สามารถเดินดูกำจัดหนอนและเด็ดใบส่วนเสียทิ้งได้รอบต้น

การบังคับมะนาวในกระถางแก้มลิงให้ออกผลนอกฤดูนั้น จะอาศัยเทคนิคง่าย ๆ โดยใช้หลักการว่า ถ้ามะนาวขาดน้ำจะสลัดใบร่วงเพื่อลดการคายน้ำ จนเมื่อกลับให้น้ำใหม่ ก็จะรีบผลิดอกออกผล ด้วยเหตุนี้ ถ้าต้องการให้มะนาวออกดอก เราก็จะใช้สายยางมาดูดน้ำก้นกระถางจากท่อที่เราโผล่ปากไว้ให้หมด แล้วนำถุงพลาสติกมาคลุม รอประมาณ 5-7 วัน ใบจะเหี่ยวร่วงไป จากนั้นจะปล่อยน้ำเข้าทางท่อเดิม พร้อมให้ปุ๋ยไฮโดรโปนิกส์ที่เน้นธาตุอาหาร P และ N สูง เมื่อติดดอกติดผลก็เพิ่มปุ๋ย K เข้าไปเพื่อบำรุงลูก หรืออาจใช้ปุ๋ยทั่วไป สูตรเสมอ 15-15-15 ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงในน้ำ ซึ่งสามารถควบคุมได้ดี และประหยัดปุ๋ยมากกว่าใส่ลงในดิน

หรืออาจใส่ปุ๋ยคอกจากมูลวัว มูลไก่ มูลหมู ที่มีขายตามท้องตลาดลงในดินด้วย เพื่อให้ได้ผลผลิตสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ที่สำคัญต้องหมั่นตัดแต่งกิ่งให้สั้นแค่ขนาดทรงพุ่มประมาณ 1 เมตร เพราะไม่เช่นนั้นจะไม่มียอดอ่อนให้ติดดอก.

ขอบคุณ
ทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ

2/05/2015

พาชมสวน

ไปเที่ยวญีปุ่นช่วงหน้าปลายเมษายน พฤษภาคม จะได้เห็นดอกไม้สวยๆ ดอกไม้ที่ชื่อว่า wisteria หรือคนญี่ปุ่นเรียกว่า fuji flowers ให้ดอกหลายสีมีทั้งสีชมพู ขาว สีม่วง ระรานตาไปหมด ช่วงเช้าที่เดินชมอากาศยังไม่ร้อนแต่พอใก้ลเที่ยงแสงแดดตรงหัวจะรู้สึกว่าร้อนพอสมควร พอดีเราใส่เสื้อผ้าหนาไปด้วยเพราะอากาศหนาวช่วงเช้า

1/30/2015

มาถึง สถานี Tomita แล้ว

มีปลูกต้นดอกไม้ไว้ที่สถานีรถไฟไว้ต้อนรับฤดูชมงานซะด้วย
 ถึงแล้ว Tomita เป็นเมืองเล็กๆ อยู่ทางเหนือของโตเกียว โดยนั่ง Tohoku shinkansen ไปลงที่เมือง OYAMA จากนั้นเปลี่ยนขบวนเป็น JR Ryomo Line มุ่งสู่ Tomita


ภาพนี้พอมองเห็นป้ายชื่อสถานีหน่อย
ลงรถไฟแล้วเดินเข้าไปในสถานีแล้วเดินทะลุออกหลังสถานีก็ไปเจอกับบ้านคนญี่ปุ่นทันที เลยถ่ายภาพไว้แต่มองหาเจ้าของบ้านไม่เจออีกเหมือนเคย



ถึงคราวต้องเดินไปที่ Askaga Flower Park ล่ะ


ออกจากสถานี ต้องเดินต่ออีกประมาณ 1 กิโลเมตร อากาศวันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส มีแดดด้วย โน่นล่ะทางเดินอยู่ข้างหลังพวกเรา ถนนค่อนข้างโล่งดีรถไม่มาก สะอาดสะอ้านคงที่คงวาทุกแห่ง

บรรยากาศข้างทาง....ชักเริ่มร้อนแล้วน่ะ


เลยโค้งนี้ก็ถึงแล้วจร้า..........เย้...แหมเดินเกือบจะถึงอยู่แล้วอยู่ๆฝนเจ้ากรรมตกมาอย่างแรง แต่ดีที่เราติดร่มมา ๒ คัน ๕๕๕  ไม่ได้แอ้มข้าหรอกโว้ย



ฝนหยุดตก มาถึงที่จำหน่ายตั๋วเข้าที่ด้านหน้า Front Gate Ticket Sales มาที่นี่ก็เพื่อมาชมสวนดอกไม้สวยๆที่ Askaga Flower Park ซึ่งดอกไม้ พรรณไม้ เมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ กระถางต้นไม้สวยๆ ตุ๊กตาและของฝากต่างๆมากมายเหมือนเรามาเที่ยวงานเกษตรแฟร์  รวมทั้งอาหารการกินจบวงจร



ซื้อตั๋วก่อน



ได้ตั๋วมาแล้ว





1/21/2015

โรคนับเป็นร้อย......มีที่มาจากอารมณ์

ในทัศนะขององค์รวม มีแพทย์แผนจีน,ไทย,อยุรเวท,การแพทย์ธิเบต มีหลักคล้ายๆกัน ในส่วนแผนจีนอธิบายไว้ดังนี้
จิตได้เชื่อมโยงผลกระทบของร่างกายทั้งอวัยวะตันภายในทั้ง ๕ (หัวใจ ปอด ม้าม ตับ ไต) อวัยวะกลวงภายในทั้ง ๖ (กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ ซานเจียว) เส้นลดปราณที่สัมพันธ์กับอารมณ์และสิ่งกระตุ้นทั้งมวลอย่างแนบแน่น ตัวอย่างที่จะกล่าวถึงคือเรื่องของอารมณ์ทั้ง ๗ กับการเกิดโรค



อารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ปุถุชนทั้งหลาย ประกอบด้วยอารมณ์ ๗ อย่างด้วยกัน คือ
-- ดีใจ
-- โกรธ
-- วิตก
-- กังวล
-- เศร้า
-- กลัว
-- ตกใจ
(เนื่องจากอารมณ์วิตกกับอารมณ์กังวลมีลักษณะใกล้เคียงกัน และอารมณ์กลัวกับอารมณ์ตกใจก็มีลักษณะใกล้เคียงกัน จึงจัดไว้เป็นกลุ่มเดียวกัน เหลือเป็นอารมณ์ทั้ง ๕)
อารมณ์ทั้ง ๗ นับเป็นสาเหตุก่อโรคที่เป็นเหตุปัจจัยจากภายในร่างกาย การได้รับผลกระทบจากอารมณ์ใดที่มากเกินไปและนานเกินไป จะทำให้เกิดโรคกับอวัยวะภายในและเส้นลมปราณได้

อารมณ์ดีใจ เป็นอารมณ์กระตุ้นในด้านบวก เป็นไปในทางให้ประโยชน์แก่ร่างกาย

อารมณ์โกรธ เศร้าโศก เสียใจ กลัว ตกใจ เป็นอารมณ์กระตุ้นในด้านลบ เป็นไปในทางให้โทษกับร่างกาย

อารมณ์ครุ่นคิด วิตกกังวล เป็นอารมณ์พื้นฐานของการเคลื่อนไหวของอารมณ์ การใช้ความคิดอย่างมีสติ มีปัญญา และสอดคล้องกับความเป็นจริงทางภาวะวิสัย จะมีทางออกทำให้อารมณ์ถูกเปลี่ยนแปลงรุนแรงไปด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป

อารมณ์ทุกอารมณ์เป็นความปกติที่เกิดกับปุถุชน แต่ต้องมีไม่มากหรือน้อยเกินไป และไม่นานจน เกินไป เพราะความสุดขั้วของอารมณ์ล้วนกระทบต่อสมดุลของธาตุภายในร่างกาย และเส้นลมปราณจะทำให้เกิดโรคได้

อารมณ์ดีใจ : เกี่ยวข้องกับหัวใจลำไส้เล็ก
โบราณกล่าวว่า “ดีใจเกินไปทำลายหัวใจทำให้เลือดไหลเวียนช้า” หัวใจมีหน้าที่ควบคุมการไหลเวียนเลือด ภาวะที่มีอารมณ์ดีใจ มีความสุข การไหลเวียนของพลังและเลือดจะไหลเวียนช้า ไม่ถูกเร่งเร้า มีการคลายตัวของกล้ามเนื้อลดความเครียด เกิดความกระชุ่มกระชวย แต่ถ้าดีใจมากเกินไปจะทำให้จิตใจไม่รวมศูนย์ขาดสมาธิ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ประเดี๋ยวหัวเราะประเดี๋ยวร้องไห้ ขาดความสงบ ฟุ้งซ่าน หรือมีอารมณ์คลุ้มคลั่งวิปริตไป

อารมณ์โกรธ : เกี่ยวข้องกับตับ – ถุงน้ำดี
โบราณกล่าวว่า “โกรธมากเกินไปทำลายตับ ทำให้พลังวิ่งย้อนสู่เบื้องบน” เมื่อพลังตับย้อนสู่เบื้องบน คือ ภาวะไฟตับสูง ทำให้มีอาการหงุดหงิด ปวดศีรษะ ตามัว ปวดตา ตาบวม ความดันเลือดสูง ถ้าเป็นมากจะทำให้ปวดศีรษะรุนแรงและมีอาการวูบหมดสติ เป็นอัมพาต (ตรงกับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบและแตก) นอกจากนี้ยังทำให้ปวดชายโครง คัดแน่นเต้านมหรือมีก้อน ประจำเดือนมาผิดปกติ รู้สึกเหมือนมีก้อนในคอ แน่นท้อง บางรายมีอาเจียนเป็นเลือด คลื่นไส้อาเจียน

ตัวอย่างที่พบบ่อย คือ ผู้หญิงใกล้มีประจำเดือน ถ้ามีความผิดปกติของอารมณ์เป็นพื้นฐาน เช่น หงุดหงิดง่าย โกรธง่าย จะมีอาการมากขึ้น และกระทบกระเทือนไปยังอวัยวะภายใน คือ ตับ ถุงน้ำดี ทำให้มีอาการปวดแน่น คัดเต้านม หรือมีก้อนที่เต้านม ซึ่งทำให้อยากกินอาหารรสเปรี้ยว (วิ่งเส้นตับ)

อารมณ์วิตก – กังวล : เกี่ยวกับม้าม – กระเพาะอาหาร
โบราณกล่าวว่า “วิตกกังวล ทำลายม้าม ทำให้พลังถูกอุดกั้น” การใช้ความคิดมากเกินไป คิดไม่ถูก คิดไม่เป็น คิดแล้วไม่มีทางออกที่ดี ทำให้เกิดอารมณ์อื่นๆ ตามมา ความวิตกกังวลเกินเหตุมีผลต่อระบบการย่อยดูดซึมอาหาร (แผนปัจจุบันเรียกว่า เครียดลงกระเพาะอาหาร) ทำให้เบื่ออาหารท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท้อง เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ถ่ายเหลว ฯลฯ ถ้าเป็นเรื้อรัง จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ความจำเสื่อม นอนไม่หลับ ฝันบ่อย ฯลฯ อันเป็นผลจากากรอุดกั้นของพลังขัดขวางการย่อยดูดซึมอาหาร และการพร่องของเลือดและพลังที่ไปเลี้ยงสมอง

อารมณ์เศร้าโศก – เสียใจ : เกี่ยวกับปอด – ลำไส้ใหญ่
โบราณกล่าวว่า “เสียใจเกินไปทำลายปอด ทำให้พลังสูญหาย” การเศร้าโศกเสียใจมากและเรื้อรังจะทำให้พลังการไหลเวียนปอดอุดกั้นและถูกทำลาย ผู้ป่วยจะรู้สึกหดหู่ อ่อนเพลีย หมดเรี่ยวแรงเหนื่อยง่าย

อารมณ์กลัว – ตกใจ : เกี่ยวกับไต – กระเพาะปัสสาวะ
โบราณกล่าวว่า “กลัว ตกใจ เกินควรทำลายไต ทำให้พลังแปรปรวน พลังย้อนลงด้านล่าง” อารมณ์กลัว ตกใจเกินควรทำให้พลังที่เกี่ยวกับการพยุง เหนี่ยวรั้งลดน้อยลงทำให้ปัสสาวะอุจจาระอั้นไม่อยู่ (ตกใจจนฉี่ราด) ขา ๒ ข้างอ่อนแรง ฝันเปียก ภาวะจิตใจสับสน แปรปรวน พูดจาเพ้อเจ้อ พฤติกรรมผิดปกติ

ค่ะกำลังเข้าใจตัวเองมากขึ้นแล้วใช่ไหม คำตอบคือแล้วฉันจะอารมณ์ไม่ดีไปทำไม เมื่อวานก็รู้แล้วระดับสารหลั่งสุขจะลดลงไปเมื่อเครียดค่ะ พรุ่งนี้จะอธิบายเพิ่มให้นะคะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจากหมอชาวบ้าน

1/09/2015

ทิวทัศน์นั่งรถไฟ JR Ryomo Line ไปสถานี Tomita

ลงจาก Shinkansen ที่รวดเร็วหรูหรามาเป็นรถไฟ Local Train สาย JR Ryomo line ไปสถานี Tomita  ช่วงนั่งมาได้เก็บภาพรายทางมานิดหน่อย ส่วนมากจะเป็นทุ่งหญ้า ทุ่งนาเขียวขจี หรือไม่ก็อยู่ช่วงกำลังเตรียมดิน




เท่าที่มองดูตลอดทางไม่เคยเห็นคนญี่ปุ่นจุดไฟเผาหญ้าในแปลงนาเลย ไม่เหมือนบ้านเราเมื่อเสร็จฤดูการเก็บเกี่ยวแล้ว ต้องเผาหญ้าหรือซังข้าวหมด หน้าดินก็แห้งเต็มไปด้วยขี้เถ้า ไส้เดือนหนีตายเกือบหมดปลูกอะไรก็ไม่งาม ต้องใส่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว แล้วอย่างนี้มันจะรวยได้ยังไง

เส้นทางนี้ยังสภาพดั่งเดิมอยู่บ้าง แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเห็นบ้านช่องเป็นแบบสมัยใหม่ส่วนใหญ่  ช่วงที่ผ่านถึงสถานีที่ ๓ ยังพอมีดอกสากุระให้เห็นอยู่บ้าง ภูเขามีต้นไม้หนาแน่นเขียวเต็มหมดไม่หัวโล้น ดูแล้วสวยงามสบายตาดี



1/05/2015

สถานีโอยามะ (Oyama)

แผนการเดินทางวันนี้คือต้องการไปเที่ยวที่สวนดอกไม้อะชิคะกะ (Ashikaga Flower Park)ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ที่อยู่ในจังหวัดโทชิกิ

การเดินทางจากโตเกียว มาสวนดอกไม้อะชิคะกะได้ ๒ ทาง คือ
1. JR Line: ขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโทโฮคุ (Tohoku Shinkansen)หรือ JR Utsunomiya(JR Shonan-Shinjuku) จากสถานีโตเกียว ไปสถานีโอยามะ (Oyama)แล้วเปลี่ยนรถไปต่อ JR Ryomo Line(Ryomo-sen)จากสถานี Oyama ไปสถานี Tomita

2. Tobu Line: จากสถานีอะสะคุสะ (Asakusa) ขึ้นรถไฟ Tobu Isasaki Line ไปสถานี อะชิคะกะ  แล้วจะมีรถบัสพาไปกลับสวนดอกไม้อะชิคะกะ



พวกเราหลังจากที่ลงรถไฟ Shinkansen ที่สถานีโอยามะ เราก็จะขึ้นรถไฟของสายรถไฟท้องถิ่นที่ชื่อว่า  Ryomo Line รถไฟท้องถิ่นของเขาก็เหมือนๆกับรถไฟบ้านเรา คือความเก่า สภาพรถไฟดูออกจะโบราณหน่อย แต่ที่ไม่เหมือนเลยคือดูสภาพภายในตัวรถแล้วสะอาด น่านั่งมาก เบาะนั่งนี่สวยงามการวางติดตั้งเก้าอี้กว้าง โล่ง นั่งสบาย สุดยอดมาก


รถไฟสายนี้ไม่ค่อยมีคนใช้เยอะเหมือนในตัวเมือง จึงทำตัวสบายๆ ไม่เร่งรีบ ช่วงที่ยังรอรถอยู่ได้เดินไปดูผังเส้นทางเพื่อจะดูว่ามันจะมีกี่สถานี ก็มีเจ้าหน้าที่เดินเขามาหาและถามว่ามีปัญหาอะไรมั้ย ยังคิดในใจก็ดีน่ะมีเจ้าหน้าที่ใส่ใจดี ทางที่ดูผังเส้นทางเราต้องผ่าน ๖ สถานีจึงจะถึงที่หมายปลายทาง

แค่ ๖ สถานีก็ถึงแล้วจร้า....


สภาพภายในรถไฟ JR Ryomo Line


ร้านอาหารภายในสถานีรถไฟเป็นแบบยืนกินง่ายๆเลย

(ช่วงหน้าเป็นทิวทัศน์ ๒ ข้างทาง)

1/02/2015

คาถาอายุยืน

ไว้เตือนความจำตนเอง ว่าต้อง.......


Cr. from FB